รีวิวชีวิตเฝ้าไข้คนป่วยตึกผู้ป่วยรวมในโรงพยาบาล

อากาศยังคงเปลี่ยนแปลง เพื่อน ๆ รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ เดือนนี้ของทรายเป็นเดือนแห่งการนอนโรงพยาบาล ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง วันที่ 31 จะได้กลับไปนอนที่บ้านแล้ว

แม่ทรายนอนโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม เพราะหายใจไม่สะดวก ติดเชื้อในปอด และมีแผลกดทับ จากนั้น วันที่ 9 ธันวาคม 2564 คุณแม่ความดันตก โรงพยาบาลอำเภอก็เลย Refer คุณแม่เข้าโรงพยาบาลจังหวัด

ภาพโดย Alina Kuptsova จาก Pixabay

พอถึงโรงพยาบาล ก็จะมีพยาบาลมารับเคส ซักประวัติคนไข้ รอบนี้แม่พักรักษาที่ตึกเดิม ตึกศัลยกรรมกระดูกและข้อ(ญ) นอนเตียง 25 พยาบาลเป็นกลุ่มเดิมที่เคยดูแลแม่เมื่อปีที่แล้วตอนที่ผ่าตัดคอ (กระดูกคอเคลื่อนทับเส้นประสาทไขสันหลัง C5-C6)

ช่วงนี้ที่โรงพยาบาลมีตรวจโควิดก่อนรับผู้ป่วยแอดมิด ตรวจผู้ป่วยด้วยวิธี RT PCR และตรวจญาติด้วย Antigen Test Kit ตรวจผู้ป่วยตอนรับเข้ารักษา และ 48 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด และตรวจญาติทุก ๆ 7 วัน

พยาบาลหลายคนยังจำแม่ได้ แม่ก็ขอโทษทุกคนจากภาวะสับสนเมื่อตอนรักษาปีก่อน

ทุกเช้าจะเริ่มต้นจาก พยาบาลวัดความดัน วัดไข้ สอบถามว่าเมื่อคืนถ่ายหรือเปล่า? ปัสสาวะหรือเปล่า? และพยาบาลจะช่วยเช็ดสายสวนปัสสาวะตอนเช้า ทำแผล และให้ยาฆ่าเชื้อ

เราตื่นตี 5 ทุกวัน เช็คความพร้อมให้คุณแม่

แม่บ้านก็จะเริ่มทำความสะอาด

ก่อน 8 โมงเช้าทุก ๆ วัน คุณหมอจะมาติดตามอาการคนไข้ทุก ๆ เตียง ก่อนไปตรวจผู้ป่วยนอกต่อ

ก่อนผ่าตัด คุณหมอให้คุณแม่งดน้ำ งดอาหาร และเซ็นเอกสารยินยอมที่จะรับการผ่าตัด โดยมีญาติเป็นพยาน ก่อนผ่าตัดนี่ก็รู้สึกชิลล์มากเลย ไม่ได้ถามอะไรเลย

วันแรกผ่านไป ยังไม่มีคิวผ่าตัดสำหรับคุณแม่ คุณแม่เป็นคนอดทนมาก บ่นว่าหิวแค่เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น! เที่ยงคืนมีเสียงสวรรค์จากพยาบาลคนสวย บอกว่า กินข้าวได้แล้วนะคะ งดอีกที ตีสอง ลูกสาวที่หงุดหงิดจากการถูกปลุกก็เลยรีบลงไปซื้อของกินมาให้คุณแม่ คุณแม่กินได้นิดเดียว ท้องก็ไม่รับอาหาร

วันที่ 2 ตอนประมาณบ่ายโมง เวรเปลก็มารับแม่ไปผ่าตัดกับคุณหมอ Orthopedic ที่ตึกผ่าตัดชั้น 2 ลูกสาวรอชิลล์ ๆ ด้านหน้าห้องผ่าตัด

1 ชั่วโมงผ่านไป

2 ชั่วโมงผ่านไป

3 ชั่วโมงผ่านไป

4 ชั่วโมง ทำไมแม่ยังไม่ออกมาว๊า!!.

คุณแม่ออกมาจากห้องผ่าตัด หลังเวลาผ่านไป 5 ชั่วโมง แม่เล่าให้ฟังว่า ผ่าตัดไม่นาน เขาให้แม่เข้าไปรอคิวผ่าตัดก่อน ยังไม่ได้ผ่าทันที เสร็จแล้วเขาก็ให้แม่นอนพักฟื้นก่อนที่จะพากลับตึกผู้ป่วยใน

ทุกครั้งที่พักตึกนี้ จะได้เจอญาติผู้ป่วยบางคน ที่มีจิตอาสาสูงมาก รอบนี้ก็เช่นกัน มีสาวตัวสูง ชื่อว่า “พี่ญา” ที่จะเดินไปรอบ ๆ มองหาว่าผู้ป่วยต้องการอะไร มีอะไรที่เขาจะช่วยคนอื่นได้

หลังผ่าตัด คุณหมอให้พักฟื้นในโรงพยาบาลต่อ เพื่อดูแผล และดูอาการ

ดีที่ตึกนี้เค้าอนุญาตให้เราเฝ้าแม่ได้แหละ

เพราะบางตึกเขาไม่อนุญาตให้มีคนเฝ้าผู้ป่วยเลย (เพราะสถานการณ์โรคระบาด Covid-19)

อยู่ในเมือง มี Grabfood Lineman Food Panda และ 7-11 Delivery ให้สั่ง เรื่องของกินเป็นอะไรที่สะดวกสบายมาก ๆ เลย เป็นหนึ่งเรื่องดี ๆ ของการเฝ้าคนป่วยที่โรงพยาบาลในเมืองแหละ

มีความลำบากเรื่องที่นั่งที่นอนนิดหน่อย ในบางเวลา เช่น เวลาที่พยาบาลมาตรวจ เจาะเลือด วัดความดัน (ต้องขยับนิดหน่อย) เวลาทำแผล (เพราะต้องระวังเรื่องความเป็นส่วนตัวของคนไข้คนอื่น) กับเวลาที่แม่บ้านทำความสะอาด (จะได้ทำความสะอาดได้ทั่วถึง) ที่ต้องออกไปรอข้างนอก

อยู่ห้องรวมไม่เหงา เพราะคนเยอะ ได้ใกล้ชิดกับคนป่วยคนอื่น ๆ และพยาบาล และญาติผู้ป่วยคนอื่น ๆ ทำให้เราได้เห็นอะไรดี ๆ หลายอย่าง

ใครที่มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ถือว่าเป็นลาภอันประเสริฐจริง ๆ นะคะ ความเจ็บป่วย มันทรมาน ถ้าตอนนี้เรายังแข็งแรงดีอยู่ ก็ถือว่าเรายังมีโอกาสได้ฟังเสียงของร่างกายตัวเอง มาเริ่มดูแลตัวเองไปด้วยกันนะคะ

เริ่มต้นที่ เป็นความสุขให้ตัวเองก่อน อย่าไปมีข้อจำกัดให้กับชีวิตเยอะ อยากทำอะไร อย่ามัวแต่คิด ทำเลยเหอะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *