สวัสดีค่ะ วันนี้ทรายพาเที่ยวทิพย์ พาไปเที่ยว อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี อำเภอที่อยู่ห่างจากเมืองกาญจน์ตั้ง 200 กว่ากิโลฯ แต่มีการจัดผังเมืองที่ดีมากเลย สังขละบุรีเป็นอำเภอเล็ก ๆ ที่อยู่ในหุบเขา และมีวัฒนธรรมผสมผสาน 3 วัฒนธรรม ทั้ง ไทย มอญ พม่า เป็นอำเภอที่น่ารักมาก ๆ ค่ะ
ทริปนี้ทรายมีน้อง “โบตั๋น” เป็นเพื่อนร่วมทางค่ะ เราตื่นกันตั้งแต่ 6 โมงเช้า เพื่อเตรียมตัวเดินทาง เราเริ่มเดินทางโดยใช้รถไฟ จากสถานีธนบุรี – น้ำตก รอบ 07.45 น. (รถไฟจะมีวันละ 2 รอบ คือรอบที่เราไป และ 13.35 น.) วันที่เราไปเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่พอดี คนแน่นรถไปหมดเลยค่ะ ทั้งคนนั่ง และคนยืน
หลังจากที่เราเดินทางถึงสถานีน้ำตกเรียบร้อยแล้ว เราสองคนพักกินข้าวข้างทางเติมพลังกันก่อนไปต่อ และเดินทางต่อด้วยรถสองแถวจากสถานีรถไฟไปลงตรงถนน เพื่อรอขึ้นรถบัส จากอำเภอไทรโยค เดินทางต่อไปที่ อำเภอสังขละบุรี รถบัสใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงค่ะ ระหว่างทางคือวิวดีมาก ทั้งต้นไม้ ทั้งภูเขา ทั้งทางโค้งไปโค้งมา
ถึงอำเภอสังขละบุรี ฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว แต่เราสองคนไม่ได้จองที่พักกันไว้เลยค่ะ ทุกคนคือมันเป็นช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ เป็นวันหยุดยาว และคนเยอะมาก มันน่าลุ้นมากเลย ว่าเราจะมีที่พักกันมั้ย และในคืนแรก เราได้ไปพักกันที่ เคียงดาวโฮมสเตย์ เป็นที่พักแบบนอนกางเต็นท์ ห้องน้ำที่นี่ค่อนข้างดีค่ะ จำราคาไม่ค่อยได้ ประมาณ 400-500 บาท เต๊นท์ใหญ่ หลับสบาย แต่ไม่รู้ว่าคนนอนข้าง ๆ จะหลับสบายด้วยหรือเปล่า?
คืนแรกเราฝากท้องไว้ที่ร้านส้มตำค่ะ ชื่อร้านตำอร่อย ถ้าจำไม่ผิดน่าจะอยู่ใกล้ ๆ กับถนนคนเดิน อิ่มแล้วหนังตาก็เริ่มหย่อน เราสองคนชวนกันไปเดินย่อยเล่นที่สะพานมอญ คืนนี้ที่สะพานค่อนข้างเงียบสงบเลย พอมีคนบ้าง แต่ไม่เยอะ ในแม่น้ำมีแพเต็มเลยค่ะ
วันที่ 2 ของทริป วันนี้เป็นวันเที่ยว เริ่มต้นเช้าของวันด้วยการเดินทางไปด่านเจดีย์สามองค์ ที่ฝั่งชายแดนติดกับพม่า จากตรงนี้เราสามารถเดินทางไปเที่ยวฝั่งพม่าได้เลยค่ะ เสร็จแล้วก็ไปวัดวังก์วิเวการาม ตามรีวิว ที่วัดจะมีเจดีย์พุทธคยาจำลอง
ช่วงบ่ายทรายขี่รถลงเขาไปเที่ยวที่ป้อมปี่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม เติมน้ำมันไปเท่าไหร่ไม่รู้ แต่ระหว่างทางมันตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ มากเลยค่า น้ำมันเดี๋ยวก้นถัง เดี๋ยวครึ่งถัง ทำไมน่ะหรอคะ? เพราะเส้นทางเป็นทางชันมาก ๆ เลย ชันและโค้งจนน้ำมันไม่นิ่งเลยค่ะ อีกอย่าง ข้างทางมองไม่เห็นปั๊มเลยค่ะ ดีหน่อยที่พอจะเจอร้านที่ขายน้ำมันขวดบ้าง ทำให้ทรายกับโบตั๋นกลับมาถึงสังขละบุรีอย่างปลอดภัย ไม่ต้องน้ำมันหมด ให้ต้องจอดมอเตอร์ไซค์ทิ้งไว้กลางทาง
กลับมาถึงสังขละบุรี เราไปถ่ายรูปกันต่อที่ สะพานไม้อุตตมานุสรณ์ วันนี้คนเยอะมาก ๆ เลยค่ะ
ถ่ายรูปเสร็จเรียบร้อย เราแวะเข้าที่พัก อาบน้ำอาบท่า แล้วพากันไปหาของอร่อยกินที่ ถนนคนเดิน วันนี้เรากินชาบูกันค่ะ ที่ถนนคนเดินก็จะมีน้อง ๆ นักเรียน มาแสดงความสามารถพิเศษ และวัฒนธรรมที่บ้านเค้า และมีสินค้าขายหลากหลายเลยค่ะ ที่นี่เป็นครั้งแรกที่ทรายเจอไข่กระทะเสียบไม้ ตอนนั้นรู้สึกว้าวมาก จนต้องรีบซื้อ
คืนนี้เป็นคืนส่งท้ายปี ทรายกลับไปเค้าน์ดาวน์ที่สะพานไม้อุตตมานุสรณ์อีกครั้ง คนแน่นสะพานไปหมด มีคนกระโดดน้ำด้วย ทรายตกใจมาก ๆ แต่ไม่เห็นมีใครตกใจอะไร สงสัยเค้ากระโดดเล่น (เที่ยงคืนเนี่ยนะ?) มันเป็นคืนเค้าน์ดาวน์เงียบ ๆ ไม่ได้มีงานพิเศษ แต่ทุกคนบนสะพานดูมีความสุข มีทั้งไปกับกลุ่มเพื่อน ไปกับคนรัก ไปกับครอบครัว ข้างล่างสะพานมีคนขายของประปราย
พอใกล้เที่ยงคืน จะได้ยินเสียงทุกคนนับ 10 9 8 7 6 5 4 3 2 1 พ.ศ. เก่าผ่านไป เริ่มต้น พ.ศ. ใหม่ วันที่ 1 มกราคม อีกครั้ง มีบางคน จุดพลุเฉลิมฉลอง ท้องฟ้าวันนั้น มีพระจันทร์ทรงกลดสวยมากเลยค่ะ
คืนที่สองทรายกับโบตั๋นเปลี่ยนมานอนเต๊นท์เล็กหลังบ้านคุณลุงคนหนึ่ง ราคา 250 บาท
เช้าวันที่ 1 มกราคมเป็นวันที่เราเดินทางกลับกรุงเทพฯ กัน เหมือนเดิมค่ะ เรานั่งรถบัสจากสังขละบุรี ไปที่อำเภอไทรโยค เพื่อที่จะขึ้นรถจากสถานีน้ำตกไปลงที่สถานีธนบุรี
ในการเดินทางครั้งนี้ ต้องขอบคุณโบตั๋น ที่ชวนไปเที่ยวสถานที่ ที่ไม่รู้จัก เป็นอีกครั้งที่ทำให้ได้เรียนรู้การอยู่ร่วมกันกับคนอื่น
ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่เข้ามาอ่านเรื่องราวที่ทรายแชร์นะคะ แล้วพบกันใหม่ บทความหน้า ขอบคุณค่ะ